"Well Come to my life"

ชีวิตคือทางที่เลือกได้

12/10/2553

สิ่งที่ ทันตะและสถาปัตย์สอนเหมือนกัน

 วันนี้ก็ได้ตัดสินใจลงบทความใหม่ ไอเดียนี้ได้ร่างมานานแล้ว โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือของ พี่นิ้วกลม "ฝนกล้วยให้เป็นเข็ม" ซึ่งพี่เค้าได้เขียนสิ่งที่คณะสถาปัตย์สอน และได้ใช้ในชีวิต เราเลยมานั่งคิดว่า เอ๊ะ มันก็มีอะไรที่คล้ายๆ คณะทันตะเหมือนกันนี่หน่า

1. สอนให้ฝัน
สถาปัตย์ : สร้างสรรค์สิ่งต่างๆจากความว่างเปล่า และต้องไม่เลียนแบบใคร เป็นฝันที่มีตัวตนบนกระดาษโจทย์เดียวกันแต่ สร้างออกมาต่างกัน

ทันตะ :  สร้างสรรค์จากความบกพร่อง ฝันให้ไกลแล้วต้องทำให้ได้ ฝันที่มีตัวตนในชีวิต ฝันว่าพรุ่งนี้ไม่มีสอบ ^^ ฝันว่าคนบางคนจะเลิกกลัวหมอฟัน เยอะแยะสารพัดฝัน

    เราว่าอันที่จริงทุกคณะก็สอนให้ฝันเหมือนกัน แต่คงต่างกันที่เป้าหมาย

2. สอนให้คิด
สถาปัตย์  : กระตุ้นให้คิดสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา นักออกแบบต้องเป็นนักสังเกตที่ดี มองดูความคิดคนอื่นๆ
              มาเป็นแรงบันดาลใจ และก่อนจะคิดต้องมี concept ในใจก่อนฃ

ทันตะ :  สอนให้คิดและแก้ปัญหาโดยส่วนตัวเราชอบคิดนอกกรอบ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง
ทำให้เราถูกจำกัดกรอบให้แคบลง แต่ถาปัตฯกลับกว้างขึ้น ทำไม คำถามนี้ยังคงวนเวียนอยู่เรื่อยๆ หลายๆครั้ง เราไม่กล้าคิดออกมาดังๆ หลายๆครั้งเราอาจถูกขโมยความคิด แต่นั่นแหละ...ชีวิต
          
            ไปๆมาๆ เราก็นอกเรื่อง เข้าเรื่องต่อ ทันตะกระตุ้นให้คิดมากๆ เพราะถ้าเราเจอคนไข้แบบนี้ เรา
            จะวางแผนรักษาเค้าได้ยังงัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ขึ้นกับเราคนเดียว อ่ะนะ

3. สอนให้ทำ
สถาปัตย์ : ฝันเสร็จ คิดแล้ว ลงมือทำ เกิดเป็นผลงานที่จับต้องได้ ไม่ได้เสร็จครั้งเดียว แต่ต้องปรับปรุง
              แก้ไข จนกว่าจะมีช่องโหว่น้อยที่สุด และก็จะกลายร่างเป็นคนที่มีความอดทน แก้ไขแบบเดิมๆ
              ได้หลายเดือน เพราะสุดท้าย บ้านก็ต้องมีคนอยู่ ตึกก็ต้องมีคนอาศัย

ทันตะ : ลงมือสร้าง ฟัน ขึ้นมาใหม่ หรือลงมือแก้ไขมันให้ดีขึ้น แก้แล้ว แก้อีก ในการแก้งานในการเรียนLab ได้ทำให้เรา ถึก และ อดทนมากมายเหลือคณานับ ซึ่งทุกอย่างต้อง clean and fit มองงานเป็นมิลลิเมตร เพราะสิ่งที่เราทำ เช่น ฟันปลอม ก็ต้องมีคนใส่  ครอบฟันก็ต้องมีคนสวม จริงๆเรื่องนี้เราอยากร่ายกันยาวเป็นมหากาพย์ คงต้องรอตอนต่อไป จะมาสาธยายตีแผ่กันให้ลึ่มเลย



สถาปัตย์ไม่ได้สอนให้ออกแบบโลก แต่สอนให้ออกแบบสิ่งต่างๆประกอบขึ้นมาเป็นสังคม
ทันตะไม่ได้สอนให้ออกแบบโรค แต่สอนให้ออกแบบแก้ไขสิ่งๆต่างๆ ประกอบขึ้นมาเป็น ช่องปาก (oral cavity) เพื่อใช้ในการเข้าสังคม

ปอลอ อย่าลืมว่ามนุษย์ เป็นสัตว์สังคม

11/15/2553

When i go to << Mansion 7>>

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นึกอยากไปกระตุ้น heart rate ให้ตัวเองซะหน่อย เลยชวน
พี่สาว ของข้าพเจ้าที่ภายนอกดูแข็งแกร่งไม่กลัวใคร ไป mansion 7 ย่านรัชดากัน
ว่ากันว่า เจ้าของเดียวกับ เพลินวาน (เหมือนเจ้าของเดียวกับ โทนาฟ!!)

Theme ของที่่นี่ประมาณว่า มีท่านเจ้าคุณรัชดา แกออกแนวโรคจิตเพี้ยนๆ ชอบสะสมศพ
ไปทำการทดลองหายารักษาโรคให้กับลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคร้าย แล้วสถานที่นี้เป็นคฤหาสถ์ของ
ท่านเจ้าคุณอันเก่า ทำให้บรรยากาศดูเก่าไปด้วย เหอๆๆๆ แค่นี้ก็ขนลุกแล้ว

บรรยากาศภายนอกก็ดูสวยงาม น่ากลัว ตอนแรกนึกว่าผีฝรั่ง แต่ไม่ใช่ผีไทยโบราณนี่แหละ
ปรากฏเราเปนคนนำทางเข้าไป พี่สาวที่ดูแข็งแกร่งก็เกาะเราแน่นมั่ก ก้มหน้าก้มตาเดินตามเรา
และร้องกรี๊ดๆๆ ตลอดทาง แค่สิบนาทีก็เห็นแสงสว่าง แต่เข้าไปในนั้นหยั่งกะสิบชั่วโมง โอ้พระแม่!!

แต่เราสองคนก็รอดไปได้ วะฮะฮ่า ที่ฮาสุดก็คือ เค้ามีกฎว่า ห้ามทำร้ายนักแสดงด้วย สงสัยกลัวคนตกใจแล้วต่อยนักแสดง 5555

และวันนี้ก็ใกล้ผ่านพ้นไป กับ Block การเรียนใหม่ที่เข้ามา ก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป เย้

11/12/2553

Congratulation for Newbies Blogger


เริ่มต้นการเขียน blog วันแรก ณ 13 พ.ย. 2553 ไม่ได้ถือเคล็ดเสริมดวงใดๆทั้งสิ้น

จริงๆ ก็ว่าจะเริ่มเขียนตั้งน๊านนแล้ว แต่ไม่มีเวลาซักที ได้ฤกษ์ดีว่าสอบเสร็จพอดี

ความตั้งใจที่เขียน blog ตั้งใจว่าจะไว้เป็นที่สำหรับวิเคราะห์ความคิด เรียบเรียงคำพูดของตัวเอง

มาใส่เป็นเรียงความ (วิชาการมากก) หรืออาจจะใช้เป็นที่ระบายอะไรบ้างอย่างก็ไม่แน่ใจตัวเอง

บทความแรก ก็เป็นอันเสร็จสิ้นสโมสร....