"Well Come to my life"

ชีวิตคือทางที่เลือกได้

6/03/2556

GotoBeijingByTrain (3) : เวียงจันทร์ วันแดดเปรี้ยง

13 | 03| 2556

เวียงจันทร์ในมโนภาพก่อนมาเยือน เหมือนภาคอีสานบ้านเรา พอได้มาสัมผัสพบว่า เวียงจันทร์มีวัฒนธรรมเฉพาะตัวของตนเอง 
น่าแปลกสิ่งที่เราได้สัมผัสคือ ความเป็นมิตรของผู้คนที่นี่นั่นเอง
พวกเราข้ามมาถึงลาวแล้ว ก็ได้เจอลุงท่าทางเป็นมิตรเข้ามาเสนอราคาพาเที่ยว แต่จุดหมายปลายทางแรกของเราคือ การไปสถานีขนส่งสายใต้เพื่อไปซื้อตั๋วรถไปฮานอย แล้วเรามีเวลาไม่มากนัก เนื่องจากรถออก 19.00 น. ต่อรองไปมาลุงแกก็บอกว่าจะพาไปซื้อตั๋วถึงที่ และพาไปเที่ยวด้วย คนละ 250 บาท ขาดตัว เราก็โอเค ไปจ้ะ
คิดได้ดังนั้นเราก็กระโดดขึ้นรถมุ่งไปสถานีรถสายใต้ ก่อนที่ตั๋วจะหมด
พอเราไปถึงสถานีสายใต้ตามที่รีวิวมา ลุงแกก็พาเราไปถึงรถเลย ซื้อต่งซื้อตั๋วไรไม่ต้องพูดถึงเลย 

ไปซื้อตั๋วกับคนขับ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นลูกครึ่งลาวและเวียดนาม เราก็กำชับกับพี่เค้าว่ามีที่แน่นนะ เราก็ขึ้นไปสำรวจสภาพรถ และจับจองที่นั่งเอาไว้
เสร็จธุระเราก็ไปเที่ยวในเวียงจันทร์กัน




ที่แรกเราก็มาที่พระธาตุหลวง มันช่างใหญ่โตอะร้าอร่ามเสียนี่กระไร เดินๆวนๆสำรวจไปซักพัก ไหว้พระธาตุพอกรุบกริบ ถ่ายรูปที่มุมฮิต
ก็ออกเดินทางกันต่อ ปลายทางต่อไปคือประตูชัย

แต่ท้องของพวกเราก็ร้องโครกครากมาซะก่อน เลยต้องให้ลุงแกพาแวะกินข้าวกัน ลุงก็พามาภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวนั้น คาดว่าคงพาทัวร์มาลงบ่อย ด้วยความที่พวกเราติดดิน (จริงๆประหยัดงบนั่นเอง) ก็เลยเดินเลี้ยวออกมากินเฝอลาวข้างทางแทน

รสชาติเฝอลาวเป็นเส้นเมื่อมๆ คล้ายก๋วยจั๊บญวณ กินเพื่ออยู่จริงๆ

พอท้องอิ่มก็เดินทางกันต่อ


ประตูชัย คนลาวจะเรียกว่าประตูไซ เชื่อว่าเป็นที่อันดับต้นๆในการมาเที่ยวลาว และทัวร์จะต้องพาลง เนื่องจากลาวเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส จึงมีประตูชัยคล้ายๆของที่ฝรั่งเศสเช่นกัน เพื่อแสดงถึงความเป็นอิสรภาพการตกเป็นเมืองขึ้นนั่นเอง มันคงเป็นสัญลักษณ์แสดงความแข็งแกร่งของคนในชาติ เหมือนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในบ้านเรา

ต่อมาเราไปวัดศรีษะเกศ ลุงคนขับบอกว่าวัดเปิด บ่ายโมง เราก็งง โห วัดที่ลาวนี่เค้าตื่นสายหรอ เปิดตั้งบ่ายโมง
ซึ่งพวกเราไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย ได้ยินเสียงกุกกักที่กลอนประตู และก็เปิดให้เข้าไป เสียค่าเข้าประมาณ 20 บาท
ต่อมาเราก็ไปวัดอะไรจำชื่อไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าเป็นวัดที่เคยมีพระแก้วมรกตบูชาอยู่ก่อนที่ไทยจะอัญเชิญไปบูชาที่วัดพระแก้วบ้านเรา

เสร็จแล้วพวกเราก็แวะพักผ่อนกันที่Joma's Bakery and coffee ซึ่งว่ากันว่าเจ้าของเป็นชาวต่างประเทศ ดังนั้นการจัดวางร้านทุกอย่างจึงดู อินเตอร์เนชั่นแน่นมากๆ

หลังจากเที่ยวเวียงจันทร์กันอย่างเหน็ดเหนื่อย ก็กลับไปที่สายใต้กันอีกครั้ง เพื่อชำระกิจส่วนตัว
อันได้แก่ ล้างหน้าและแปรงฟัน นั่นเอง เนื่องจากเราต้องนอนบนรถ 24 ชม. เพื่อไปถึงฮานอยในทุ่มนึงของอีกวันแค่คิดก็เพลียแล้ว 
ตอนหน้ามาดูว่าพวกเราจะใช้ชีวิตอยู่บนรถอย่างไร 24 ชม. เต็ม!!!